พระไวโรจนพุทธ เป็นพระธยานิพุทธะ 1 ใน 5 องค์ ของนิกายวัชรยาน ทรงเป็นประธานของพระพุทธะทั้ง 5 หมายถึงปัญญาอันสูงสุด ตราประจำพระองค์เป็นธรรมจักร หมายถึง ความเป็นหนึ่ง พระกายเป็นแสงสว่าง มักแทนด้วยสีขาว ตำแหน่งในพุทธมณฑลจะอยู่ตรงกลางโดยมีพุทธะอีก 4 องค์ห้อมล้อม พระโพธิสัตว์ในกลุ่มของท่านที่สำคัญมี 2 องค์ คือ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ และพระมัญชุศรีโพธิสัตว์
พระองค์ได้รับการเคารพนับถือจากชาวพุทธทั้งในตะวันออกไกล เนปาล ทิเบต และชวา ชาวพุทธจำนวนมากยกย่องให้เป็นอาทิพุทธะหรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ความเชื่อเกี่ยวกับพระไวโรนะพุทธะปรากฏตั้งแต่ครั้งยุคมหายานและจรยาตันตระ พระสูตรที่กล่าวถึงพระองค์มีหลายฉบับเช่น
ํ1. มหาไวโรจนสูตร ยกให้พระองค์เป็นศูนย์กลางมณฑล เป็นตัวแทนของความจริงสากล
2. อวตังสกสูตร ที่มีรากฐานมาจากคัณฑวยูหสูตรและทศภูมิกสูตร กล่าว่าพระไวโรจนะพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าในโลกแห่งแสงสว่าง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความหลุดพ้นในปัจจุบัน
ในคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบตกล่าวว่าพระองค์จะปรากฏตัวในวันแรกของบาร์โดพร้อมกับแสงสีคราม
พระไวโรจนะมีพระกายสีขาว รัศมีธรรมเป็นสีน้ำเงินอ่อน ในทางวัชรยานถือว่าสีน้ำเงินเป็นสีของความจริงปรมัตถ์ ส่วนสีขาวเป็นที่รวมของสีทั้งหมด เหมือนแสงขาวจากดวงอาทิตย์ที่มองผ่านแท่งแก้วปริซึมจะเห็นเป็นสีต่างๆ 7 สี ซึ่งแทนความหมายของการเป็นประมุขแห่งพระธยานิพุทธะ
พระไวโรจนะเป็นตัวแทนของอากาศธาตุ ซึ่งเป็นช่องว่างในจักรวาลที่ต่างจากธาตุลม เป็นตัวแทนของเอกภาพที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกัน
อิตถีภาวะของพระไวโรจนะพุทธะคือวัชรธาตุวิศวรี (ท่านหญิงแห่งปัญญาธาตุ) หรืออากาศธาตุวิศวรี (ท่านหญิงผู้ยิ่งใหญ่แห่งอากาศอันไร้ขอบเขต) เป็นบุคลาธิษฐานของปัญญาญาณ ที่สะท้อนให้เห็นจักรวาลภายใต้พระบารมีธรรมของพระไวโรจนะมีสัญลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยมหรือเปลวไฟ กายสีขาว อยู่ในท่าแสดงธรรม
ท่าทางประจำพระองค์คือธรรมจักรมุทรา เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการหมุนกงล้อธรรมครั้งแรกต่อหน้าปัญจวัคคีย์ทั้งห้า รูปแบบอื่นๆของพระไวโรจนะคือทำท่าสมาธิคล้ายพระอมิตาภะพุทธะแต่จะถือธรรมจักรแทนดอกบัว
เสียงประจำพระองค์คือเสียง “โอม” ซึ่งเกิดจากศูนย์ลมบริเวณศีรษะ ในศาสนาพุทธ เสียงนี้หมายถึงความว่าง ในศาสนาฮินดู ใช้เป็นเสียงที่ดึงจิตให้เกิดสมาธิ เพื่อประสานเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ธารณีประจำพระองค์ โอม อะ วิ ระ ขัมวัชรธาตุ ตวาม
พาหนะของพระไวโรจนพุทธะคือสิงโตเผือก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความกล้าหาญและความยิ่งใหญ่ สิงโตเผือกยังสื่อถึงสิงโตหิมะซึ่งเป็นสัตว์หายากในตำนานของทิเบต จึงเป็นตัวแทนของธรรมะขั้นสูงสุด
พระพุทธมหาไวโรจนตถาเจ้า นั้นถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมเบื้องต้น เป็นภาคแรกของ "พระอาทิพุทธ" ในรูปสัมโภคกาย ทรงเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยพระมหาปัญญาอันสูงสุด
คำว่า “ไวโรจนะ” หรือ “วิโรจนะ” นี้หมายถึง พระอาทิตย์, การส่องแสงสว่าง, ความรุ่งเรือง,
ความแจ่มใส หรือ ผู้ให้ความอบอุ่นแก่โลก
ในยุคแรกของพระพุทธศาสนา ได้นำความหมายของคำๆ นี้มาใช้เรียกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประกาศพระธรรม อันเป็นดุจดวงประทีปที่ส่องทางสว่างให้แก่โลก แล้วในยุคมหายาน คำๆ นี้จึงถูกนำมาใช้เรียกพระนามของพระธยานิพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง นั่นก็คือ
"พระไวโรจนพุทธเจ้า" นั่นเอง
ในคัมภีร์ มหาไวโรจนสูตร ซึ่งเป็นคัมภีร์หลักแห่งตันตระในยุคศตวรรษที่ ๗ นั้นถือว่า พระไวโรจนพุทธเจ้าพระองค์นี้เอง ที่เป็นผู้ประกาศธรรมแก่พระมหาโพธิสัตว์ทั้งปวง
ตราประจำพระองค์ของ พระไวโรจนพุทธเจ้า นั้นจะเป็นรูปธรรมจักร อันหมายถึง ความเป็นหนึ่ง มีพระวรกายเป็นดั่งแสงสว่าง โดยมักแทนด้วยพระวรกายสีขาว รัศมีธรรมเป็นสีน้ำเงินอ่อน
ในนิกายวัชรยานนั้นจะถือว่า สีน้ำเงินเป็นสีแห่งความจริงอันเป็นปรมัตถ์ ส่วนสีขาวเป็นสีของแสงที่รวมของสีทั้งหมด (เหมือนแสงขาวจากดวงอาทิตย์ที่มองผ่านแท่งแก้วปริซึมจะเห็นเป็นสีต่างๆ ๗ สี) ซึ่งแทนความหมายของ การเป็นประมุขแห่งพระธยานิพุทธ
พระไวโรจนพุทธเจ้า นั้นทรงเป็นตัวแทนของอากาศธาตุ ซึ่งเป็นช่องว่างในจักรวาล เป็นธาตุกลางในธาตุที่เหลืออีก ๔ ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ตำแหน่งในพุทธมณฑลนั้น จะอยู่ตรงกลางเป็นพระประธาน โดยมีพระพุทธเจ้าอีก ๔ พระองค์ ห้อมล้อมอยู่ ทรงเป็นต้นวงศ์พุทธโคตร ซึ่งพระโพธิสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มนี้ที่สำคัญมี ๒ องค์ คือ พระสมันตภัทรมหาโพธิสัตตว์ กับ พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตตว์
ลักษณะท่าทางของพระองค์นั้น จะทรงแสดงออกมาในรูปธรรมจักรมุทรา เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการหมุนกงล้อแห่งธรรมครั้งแรก ในการแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
รูปแบบอื่นๆ ของพระพุทธไวโรจนตถาคตเจ้า คือ ทำท่าสมาธิคล้าย พระอมิตาภพุทธเจ้า แต่จะทรงถือธรรมจักรแทนดอกบัว เสียงประจำพระองค์คือเสียง
“ โอม ” ซึ่งเกิดจากศูนย์ลมบริเวณพระเศียร