เหรียญแรกของประเทศไทย ปี 2458 จัดสร้างจากประเทศญี่ปุ่น
พระพุทธวิริยากร (จิตร ฉนฺโน) วัดสัตตนารถปริวัตร ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปที่ ๓ ของ
วัดสัตตนารถปริวัตร ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๓๗ - ปี พ.ศ. ๒๔๕๗ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในหมู่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาว่า เหรียญของท่านถือเป็นเหรียญพระสงฆ์ เหรียญแรกของประเทศไทย ถึงแม้ว่าในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์โดยทั่วไปแล้ว จะไม่นิยมเล่นหาเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อแจกเป็นที่ระลึกเนื่องในการฌาปนกิจศพ หรือที่เรียกว่า
"เหรียญตาย" กันนัก แต่มีข้อยกเว้นก็เฉพาะ
"เหรียญตาย ๒ เหรียญ" ที่กลับได้รับการยอมรับและนิยมสะสมอย่างกว้างขวาง นั่นคือ
เหรียญที่ระลึกในการพระราชทานเพลิงศพ เสด็จในกรมฯ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และ
เหรียญพระพุทธวิริยากรที่สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ พระพุทธวิริยากร (จิตร) ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ปี พ.ศ. ๒๓๙๐ ณ บ้านตำบลคลองยายแฝง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โยมบิดารับราชการ แต่มิได้มีการจดบันทึกชื่อไว้ ท่านได้เริ่มศึกษาอักขระสมัยที่สำนักพระอาจารย์บ่าย
วัดบางน้อย อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
จนท่านมีอายุครบบวช จึงได้อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๑ ณ พัทธสีมา
วัดตาล หรือชื่อในปัจจุบันคือ
วัดอมรินทราราม ตำบลพงสวาย อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยมี
หลวงพ่อปาน วัดบางคนทีนอก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา
"ฉันโน" ต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่
วัดสัตตนารถปริวัตร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
ในระหว่างที่อุปสมบท ท่านศึกษาด้านพระธรรมวินัยเป็นที่แตกฉาน แล้วจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม ณ สำนัก
พระธรรมราชานุวัตร (ต่าย) และ
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ยัง) เมื่อสำเร็จแล้วจึงเดินทางกลับไปจำพรรษาที่วัดตาลดังเดิม
ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่ใฝ่ในสมถะ และมีวัตรปฏิบัติฝ่ายธรรมยุตที่เคร่งครัดตามหลักของพระธรรมวินัย มีเมตตาธรรม และกรุณาธรรม จึงเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสและเคารพรัก ของเหล่าพุทธศาสนิกชนที่ได้มากราบนมัสการ และรับฟังธรรมะจากท่าน รวมถึงฝากตัวเป็นลูกศิษย์ลูกหากันเนืองแน่นทั้งชาวราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ท่านดูแลปกครองคณะสงฆ์ ให้มีความประพฤติดีปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และพัฒนาวัดวาอารามให้เจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ
ยิ่งกว่านั้นท่านยังเป็นที่โปรดปรานใน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างมาก ท่านได้รับการแต่งตั้งและ สถาปนาสมณศักดิ์เรื่อยมาตั้งแต่
พระสมุห์จิตร เจ้าอาวาสวัดตาล
พระครูอุดมธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ฝ่ายธรรมยุต มณฑลราชบุรี เจ้าอาวาสวัดสัตตนารถปริวัตร และสุดท้ายได้เป็นพระราชาคณะที่
พระพุทธวิริยากร พระพุทธวิริยากร (จิตร) ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๗ สิริอายุ ๖๘ ปี พรรษา ๔๗ และได้รับการทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพด้วย.
วัตถุมงคลของพระพุทธวิริยากร(จิตร) วัตถุมงคลที่ทันท่านไม่ได้มีการสร้างไว้ จะมีก็แต่เหรียญที่สร้างขึ้นในภายหลังจากที่ท่านมรณะภาพแล้ว ที่นิยมในปัจจุบันมีอยู่ ๒ รุ่น คือเหรียญเต่า และเหรียญพระแก้ว
ปี พ.ศ. ๒๔๕๘ เหรียญพระพุทธวิริยากร(จิตร) หรือเหรียญเต่ารุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. ๒๔๕๘ ถือว่าเป็นเหรียญพระสงฆ์เหรียญแรกของประเทศไทย สร้างเพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพพระพุทธวิริยากร (จิตร ฉนฺโน) เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๘ โดยเหรียญนั้นผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
เนื่องจากมัคทายกของวัดฯ มีบุตรชายทำงานด้านการช่างที่ญี่ปุ่น เป็นคนดำเนินการจัดสร้างให้มี ๒ ชนิด คือเหรียญปั๊มสร้างจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนเหรียญหล่อสร้างขึ้นในประเทศเไทย โดยสร้างคนละครั้งกัน โดยเหรียญปั๊มเนื้อทองแดงสร้างก่อนพอแจกหมด จึงทำเหรียญหล่อขึ้นมาอีก ซึ่งเหรียญทั้งหมดปลุกเสกโดย
พระครูวินัยธรรมอินทร์ (พระที่ชาวจังหวัดราชบุรีเคารพนับถือมาก และพากันขนานนามท่านว่า
"หลวงปู่เฒ่าอินทร์เทวดา") และพระคณาจารย์ชื่อดังของยุคนั้นหลายองค์ด้วยกัน เหรียญนี้มีการสร้างด้วยกันหลายเนื้อ ทั้งเงิน ทองแดง สัมฤทธิ์ และชินเงิน ลักษณะรูปทรงของเหรียญจะคล้ายรูป
"เต่า" หูเชื่อม สามารถแบ่งออกเป็น ๒ พิมพ์ด้วยกันคือ
พิมพ์พุทธไม่มีหัว และ
พิมพ์พุทธมีหัว
ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนพระพุทธวิริยากรครึ่งองค์ ล้อมรอบด้วยอักขระขอมอ่านว่า "อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สังวินาปุกยะปะ"
ด้านหลัง ส่วนบนเป็นอักขระขอมอ่านว่า "ทุ สะ มะ นิ" คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งก็คือ ยอดหัวใจพระไตรปิฎก ช่วงกลางเป็นอักษรไทยว่า "ที่ระลึกในการฌาปะนะกิจ" ต่อลงมาเป็นอักขระขอม อ่านว่า "ฉันโน" ซึ่งเป็นฉายาของท่าน ล่างสุดเป็นปี พ.ศ. ที่จัดพิธีฌาปนกิจศพพระพุทธวิริยากร คือ "๒๕๔๘"
ปี พ.ศ. ๒๔๘๑
เหรียญพระพุทธวิริยากร หลังพระแก้วมรกต
ในส่วนของเหรียญพระพุทธวิริยากรหลังพระแก้วมรกตนั้น สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ โดยเหรียญรุ่นนี้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดราชบพิตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ซึ่งเป็นงาน "พิธีหล่อพระรูปสมเด็จพระสังฆราช เจ้ากรมหลวงชินวรณ์สิริวัฒน์" โดยมีพระยาศรีสุรสงคราม เป็นแม่งาน และสมเด็จพระสังฆราช (แพ) เมื่อครั้งสมณศักดิ์เป็น “พระวันรัต” เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีครั้งนั้นนับได้ว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่และสำคัญ ที่พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษเข้าร่วมพิธีอย่างมากจำนวนถึง ๑๐๘ รูปสร้างด้วยเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง และทองแดงกระไหล่เงิน สามารถจำแนกออกตามหลักความนิยมเป็น ๓ พิมพ์ด้วยกันคือ คือ ๑. พิมพ์อู่ทอง (โชคลาภ) ๒. พิมพ์สุโขทัย (เมตตามหานิยม) ๓. พิมพ์เชียงแสน (มหาอุตม์) มีจำนวนการสร้างรวมกันทั้งหมดประมาณ ๑๕,๐๐๐ เหรียญ
เหรียญพระพุทธวิริยากร หลังพระแก้วมรกต พิมพ์อู่ทอง
ลักษณะเป็นเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ จัดสร้างด้วยเนื้อทองแดง มีทั้งที่เป็นกระไหล่ทอง และกระไหล่เงิน เชื่อกันว่ามีพุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้
โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง