นางพญา กรุหัวเมือง จ.นครสวรรค์ เนื้อตะกั่วสนิมแดง เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะสมัยอยุธยา แตกกรุในปีพ.ศ.๒๕๑๐ พร้อมกับพิมพ์ซุ้มนครโกษา เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะแบบลพบุรี

นางพญา กรุหัวเมือง จ.นครสวรรค์ เนื้อตะกั่วสนิมแดง เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะสมัยอยุธยา แตกกรุในปีพ.ศ.๒๕๑๐ พร้อมกับพิมพ์ซุ้มนครโกษา เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะแบบลพบุรี
นางพญา กรุหัวเมือง จ.นครสวรรค์ เนื้อตะกั่วสนิมแดง เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะสมัยอยุธยา แตกกรุในปีพ.ศ.๒๕๑๐ พร้อมกับพิมพ์ซุ้มนครโกษา เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะแบบลพบุรีนางพญา กรุหัวเมือง จ.นครสวรรค์ เนื้อตะกั่วสนิมแดง เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะสมัยอยุธยา แตกกรุในปีพ.ศ.๒๕๑๐ พร้อมกับพิมพ์ซุ้มนครโกษา เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ศิลปะแบบลพบุรี
รหัสสินค้า NCSWHM01
หมวดหมู่ พระกรุ
ราคา 40,000.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 25 ก.ย. 2563
อัพเดทล่าสุด 18 ก.ย. 2568
จำนวน
องค์
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
ถ้าเราศึกษาประวัติและสถานที่ที่พบกรุพระ ศึกษาเนื้อหาความเก่า ก็จะสนุกและน่าสนใจมาก และในวันนี้ผมจะพูดถึง พระกรุกรุหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ บางท่านอาจจะสงสัยมีด้วยหรือพระกรุที่นครสวรรค์ ซึ่งความจริงแล้วนครสวรรค์ก็เป็นเมืองเก่ามีมาแต่โบราณ

นครสวรรค์ก่อนที่จะมีชื่อนี้ก็มีประวัติความเป็นมาแต่ก่อนเก่า กล่าวคือ เมืองนี้มีมาตั้งแต่สมัยทวารวดีและเป็นเมืองสืบต่อมาโดยตลอด เมืองนี้เดิมมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อเช่น เมืองพระบาง และยังคงหลงเหลือซากเมืองเก่าหลงเหลืออยู่ ที่ดอนชายเขาฤๅษีลงมาจดวัดหัวเมือง มุมเมืองตั้งอยู่ตรงวัดแห่งนี้ ยังพอมีแนวเนินดินกำแพงเมืองพอดูเป็นเค้าๆ พอเห็นได้ จากหลักศิลาจารึกพบที่วัดเขากบ (หลักที่ 11) กล่าวถึง พระยาธรรมมิกราช (พระเจ้าลิไท กษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง) ได้ไปจำลองรอยพระพุทธบาทมาจากทวีปลังกาที่สร้างประดิษฐานไว้ที่เขาปากพระบาง อีกหลักหนึ่งบนยอดเขากบนั้น มีใจความกล่าวถึงการสร้างวัดเขากบ เจดีย์ วิหาร เพื่อเป็นพุทธบูชาไว้กลางเวียง อุทิศส่วนกุศลให้แก่พระยาราม ผู้เป็นน้อง จากข้อความในศิลาจารึกเหล่านี้ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า เมืองพระบางเป็นเมืองที่สร้างโดยกษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วง

นอกจากนี้เมืองนครสวรรค์ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเช่น เมืองปากนํ้าโผล่ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นจุดที่แม่นํ้าปิง วัง ยม น่าน ไหลมารวมกัน ณ จุดนี้ และเป็นที่ตั้งของเมืองเมืองนี้ ต่อมาเรียกกันเพี้ยนไปอีกว่า เมืองปากน้ำโพ และอีกชื่อหนึ่งเมืองเมืองนี้ ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เวลาเช้าพระอาทิตย์จะส่องชอนเข้าไปในเมืองอย่างเต็มที่ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ เมืองชอนตะวัน และต่อมาเพื่อที่จะตั้งชื่อเมืองให้เป็นสิริมงคล จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “นครสวรรค์”

ทีนี้เรามาพูดถึงพระเครื่องที่พูดเกริ่นไว้ คือพระนางกรุวัดหัวเมือง มูลเหตุการพบพระเครื่องกรุนี้คือ เมื่อประมาณปีพ.ศ.2500 ทางจังหวัดได้ขยายถนนและขุดลอกวางท่อประปาบริเวณวัดหัวเมือง ในการนี้เองได้ขุดพบกรุพระ พบอยู่ 2 พิมพ์คือ พิมพ์หนึ่งเรียกว่า นางกรุวัดหัวเมืองตามสถานที่ขุดพบ อีกพิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว ตามรูปลักษณ์ขององค์พระ พระนางกรุวัดหัวเมือง เป็นพระปางประทับนั่งมารวิชัย ทรงสามเหลี่ยม จึงเรียกพระนางตามที่นิยมเรียกกัน เนื้อของพระที่พบเป็นเนื้อชินตะกั่ว สนิมแดงทั้ง 2 พิมพ์ ลักษณะเป็นสนิมไขขาวปกคลุมอยู่อีกชั้นหนึ่ง ในทางโบราณคดี พระกรุวัดหัวเมืองนี้สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นพระสมัยสุโขทัยยุคปลายจนถึงสมัยอยุธยาตอนต้น สืบเนื่องจากหลักศิลาจารึกและรูปแบบศิลปะ

พระกรุวัดหัวเมืองเป็นพระกรุที่น่าสนใจทั้งทางด้านโบราณคดีและเป็นพระเก่าแก่ เนื้อหาสนิมแดงก็สวยซึ้ง แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก สนน ราคาก็ยังไม่สูงมากนัก
ข้อมูลข่าวสด

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาปตท.ถนนกาญจนาภิเษก 2 ออมทรัพย์

JEWELRY-ANTIQUE-AMULET

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม4,483,539 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด3,419,837 ครั้ง
เปิดร้าน4 ก.พ. 2558
ร้านค้าอัพเดท22 ก.ย. 2568

ติดต่อเรา

ติดตามสินค้า

พูดคุย-สอบถาม