ช่วงปฐมวัย
เมื่อตอน หลวงพ่อแพ อายุได้ 8 เดือน มารดาของท่านได้ถึงแก่กรรม ต่อมานายบุญและนางเพียร ขำวิบูลย์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ได้ขอ หลวงพ่อแพ ที่มีอายุเพียง 8 เดือน จากบิดาของท่าน เพื่อทำการอุปการะเลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อหลวงพ่อแพอายุได้ 11 ปี ท่านได้เข้าเรียน ภาษาไทย ภาษาขอม อยู่ที่วัดกับสำนักอาจารย์ป้อม นอกจากวิชาทางด้านภาษาแล้ว ท่านยังได้ศึกษา พระธรรมวินัยต่างๆ อีกด้วย
เมื่ออายุได้ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2463 เมื่อได้บวชเป็นสามเณรแล้ว หลวงพ่อแพ ได้เดินทางไปศึกษาบาลีไวยากรณ์ ที่วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ จนสามารถสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร
เมื่อสามเณรแพ อายุครบ 21 ปี ได้ทำการ บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ที่พัทธสีมาวัดพิกุลทอง เมื่อวันพุธที่ 21 เมษายน 2469 โดยมีพระมงคลทิพย์มุนี เจ้าอาวาส วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมังกะโร และได้เดินทาง เพื่อทำการศึกษาทางด้านพระปริยัติธรรมในระดับสูง ที่วัดชนะสงครามต่อไป
เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ยังหนุ่ม
ต่อมาในปี 2474 พระอาจารย์หยด เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ได้ลาสิกขาบท ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดพิกุลทองว่างลง ชาวบ้านพิกุลทองและชาวบ้านจำปาทอง จึงทำการนิมนต์หลวงพ่อแพ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ในเดือนเมษายน 2474 ซึ่งขณะนั้น หลวงพ่อแพมีอายุเพียง 26 ปี เท่านั้น
พระนักพัฒนา
เมื่อ หลวงพ่อแพ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทองเรียบร้อยแล้ว ท่านได้ทำการพัฒนาถาวรวัตถุ ทั้งภายในวัด และสิ่งก่อสร้างที่เป็นประโยชน์ต่อมหาชน ภายนอกวัด เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี อีกด้วย เช่น
ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ 80 ปี อาคารนี้สามารถบริการผู้ป่วยได้ 89 เตียง พร้อมทั้งมีการจัดตั้งกองทุน เพื่อเป็นค่าเวชภัณฑ์ และยารักษาโรค สำหรับพระภิกษุสงฆ์สามเณร ที่อาพาธ อีกด้วย
ก่อสร้างอาคารเอกซเรย์
ก่อสร้างอาคารหลวงพ่อแพ 90 ปี เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 6 ชั้น มูลค่ากว่า 35 ล้านบาท
อาคารหลวงพ่อแพ เขมังกโร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 9 ชั้นมูลค่า 120 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 11,430 ตารางเมตร ชั้นที่ 1-2 เป็นแผนกผู้ป่วยนอก ชั้นที่ 3-4 เป็นฝ่ายอำนวยการ ชั้นที่ 5-9 เป็นห้องผู้ป่วยจำนวน 60 ห้อง เรียกได้ว่าสิ่งที่ หลวงพ่อแพ สร้างไว้เป็นสาธารณะประโยชน์อันยิ่งใหญ่ ให้เราได้ใช้จนถึงทุกวันนี้
พ.ศ.๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์ เป็นกรณีพิเศษ
วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ในวาระครบ ๖๐ พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่พระเทพสิงหบุราจารย์
◉ มรณภาพ
จนกระทั่งวันพุธที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ เวลา ๑๒.๓๖ น. พระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง ก็ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ ห้อง ๙๐๑ ชั้น ๙ อาคารหลวงพ่อแพ เขมังกโร โรงพยาบาลสิงห์บุรี สิริอายุ ๙๔ ปี ๗๓ พรรษา
ปัจจุบัน สรีระของ หลวงพ่อแพ ยังคงประดิษฐาน ณ วัดพิกุลทอง เพื่อให้ญาติโยมและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้สักการบูชาสืบมา
ข้อมูล108prageji